Thread Rating:
  • 1 Vote(s) - 5 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
ถ้าอยากมี Mindset ดี ๆ เราควรเรียนรู้จากอะไร ?
#1
7 ประสบการณ์ชีวิต ที่ควรเรียนรู้ไว้ ถ้าอยากมี Mindset เริ่ด ๆ

                   วันนี้จะมาเล่าให้ว่า ถ้าอยากมี Mindset ดี ๆ เราควรเรียนรู้จากอะไร ?

               เวลาเราอ่านบทสัมภาษณ์ ดูคลิปของดาราหรือนักธุรกิจต่าง ๆ ที่มาแชร์ความรู้และทัศนคติที่ดี ทีไร พวกเราเคยสงสยกันไหมว่า พวกเค้าเหล่านั้นผ่านประสบการณ์ในชีวิตอะไรมาบ้าง ถึงตกตะกอนกลายเป็น Mindset ดี ๆ จนมาเล่าหรือบอกต่อให้พวกเราได้ฟังกัน ซึ่งเราเองก็สามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ของเค้าและนำมาปรับใช้ที่เป็นในแบบของตัวเองให้ดีขึ้นได้ในทุก ๆ วัน  เริ่มที่ข้อแรกกันเลยค่ะ
               1. ลงมือทำสิ่งที่ต้องการ โดยไม่คาดหวังว่าจะต้อง Perfect คนมากมายที่มีไอเดียดีๆ เด็ดๆ ที่พร้อมจะเอาไปทดลองใช้แต่ไม่กล้าลองทำในชีวิตจริง เพราะติดกับดักความกลัวบ้าง กลัวทำออกมาแล้วไม่ดี ถ้าทำได้ไม่ดี 100% ก็ไม่ทำดีกว่า ทำให้เสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย เพราะบางครั้งโอกาสมันมาเพียงครั้งเดียว เพราะฉนั้นไม่ต้องรอให้ทุกอย่าง 100% ถึงค่อยทำ ลองทำล่วงหน้าไปก่อนเลย ถ้าพลาดก็แค่เริ่มใหม่หรือไปลองวิธีอื่น เพราะอย่างน้อยเราก็ได้บทเรียนบางอย่างจากมัน 
               2. หาแรงผลักดัน ให้ก้าวเดินไปข้างหน้า หากชีวิตตอนนี้ค่อนข้างนิ่งๆ เรียบๆ ไปซะทุกอย่าง ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่มีอะไรมากระตุ้นตัวเอง หากเป็นแบบนี้นาน ๆ จะทำให้เกิดอาการเฉื่อย ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต ดังนั้นพยายามหาแรงกระตุ้นทำให้ชีวิตไปข้างหน้าได้ตลอดเวลาโดยไม่สะดุด เช่น พบเจอผู้คนใหม่ ๆ หรือการหารายได้เสริม เพราะเมื่อเรามีเป้าหมายใหม่ เราจะรับรู้ว่าโลกนี้กว้างกว่าที่เราคิดและมีโอกาสดีๆ ให้เราเสมอ
               3. หาความสุขจากการได้แก้ปัญหา หลายคนชีวิตอีรุงตุงนังไปดัวยปัญหา แต่ไม่สนใจจะแก้ปัญหาเพราะกลัวว่า ถ้าแก้ผิดชีวิตจะแย่กว่าเดิม โดยที่ลืมคิดไปว่า หากปล่อยเอาไว้เฉย ๆ ชีวิตก็ไม่ดีขึ้นเหมือนกันแทนที่จะทนทุกข์ทรมานกับมัน ลองจับมาตีแผ่สาเหตุและหาวิธีแก้ปัญหาอย่างจริงจังดู เพราะทางแก้มากมายที่ง่ายเหมือนเส้นผมบังภูเขา เพียงแต่ทำเป็นมองไม่เห็นหรือไม่กล้าที่จะมองเห็นเท่านั้นเอง
               4. เปลี่ยนระเบียบวินัยดีๆ ให้กลายเป็นพฤติกรรมถาวร ทุกคนล้วนเติบโตมาด้วยพื้นฐานครอบครัวที่แตกต่างกัน ซึ่งบางอย่างก็ไม่เข้ากับยุคสมัยแล้ว แต่หลายๆ เรื่องก็สมควรปรับมาเป็นพฤติกรรมถาวรในชีวิตประจำวันเรา เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นค่ะ เช่น การออกกำลังกายทุกเช้า การเก็บออมเงินให้ได้อย่างน้อย 30% ของเงินเดือนเพื่อที่จะได้ไม่ไปรบกวนพ่อแม่เพิ่ม
               5. อยู่กับปัจจุบันเป็นหลัก ไม่จมกับอดีต ไม่วาดฝันกับอนาคต  ปัจจุบันในยุคสังคมก้มหน้าที่คนส่วนใหญ่ให้มือถือเป็นปัจจัยที่ 5 เวลาที่คุยกับเพื่อนหรือใครก็ตาม ก็เอาแต่จ้องหน้าจอมือถือเหมือนหลุดไปอีกโลก แทนที่จะให้ความสนใจกับคนตรงหน้า คนประเภทนี้ถือว่าไม่อยู่กับปัจจุบันเช่นกันค่ะ ซึ่งถ้าหากเป็นแบบนี้จะทำให้สูญเสียความสัมพันธ์กับคนจริงๆ ไปทีละคน สองคน โดยที่เราไม่รู้ตัวค่ะ
               6. ออกไปข้างนอกเพื่อหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ คนที่มีทัศนคติดีๆ ที่ประสบความสำเร็จจะไม่ลังเลในการเจอคนใหม่ ๆ สถานที่ใหม่ ๆ และการออกกำลังกายให้ตัวเองได้สดชื่นทุกวัน หรือแม้กระทั่งการออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ คาเฟ่ใกล้บ้าน เพราะการได้สูดอากาศที่ปลอดโปร่ง ได้คุยหรือแลกเปลี่ยนความคิดกับใครสักคน อาจจะทำให้เราได้ไอเดียใหม่ ๆ และนำมาปรับใช้กับการทำงานของเราได้ค่ะ
               7. เมื่อเกิดอุปสรรค เรียนรู้จากความล้มเหลวนั้น แล้วพัฒนาตัวเองให้เก่งกว่าเดิม ซึ่งก็แน่นอนว่าชีวิตคนเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้แต่คนสวย ฐานะดี เก่ง ฉลาด ก็มีจุดตกต่ำในชีวิตได้ทั้งนั้น ทุกคนย่อมมีวันที่เดินสะดุด หากพบเจอปัญหาอยากให้ลองเปลี่ยนความคิด ว่าชีวิตนี้มีทางออกเสมอ ไม่มีอะไรเป็นจุดจบทั้งนั้น ถ้าเรายังเลือกจะไปต่อ ความสามารถของทุกคนพัฒนาได้ ต่อยอดได้ค่ะ

                ทุกคนสามารถปรับแนวความคิดให้มีความสุข แสวงหามุมมองดีๆ จากชีวิตได้เสมอ หากยังไม่ตายเรามีโอกาสทำสิ่งใหม่ได้เสมอ สุดท้ายแล้วถ้าอยากมีชีวิตที่ดี ต้องเรียนรู้ที่จะลุกมาปรับ Mindset เพื่อสู้ต่อ หากไม่หยุดพยายาม การจัดระเบียบชีวิตตัวเองให้มองโลกในแง่บวก เปิดกว้างกับทุกโอกาส เชื่อว่าจะต้องมีวันที่ประสบความสำเร็จ แน่นนอนค่ะ
Reply


Forum Jump:


Users browsing this thread: